Last updated: 7 เม.ย 2565 | 831 จำนวนผู้เข้าชม |
จีนมุ่งเป้าแชมป์จดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาในเวทีโลก
ในการจัดอันดับบริษัทที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรในสหรัฐฯ 50 อันดับแรก ได้มีบริษัทเอกชน ยักษ์ใหญ่ก้าวขึ้นมาติดอันดับคือบริษัท huawei อยู่ลำดับที่ 5 มีสิทธิบัตรมากกว่า2700 รายการ บริษัท BOE Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตหน้าจอ lcd, led และ oled อยู่ในลำดับที่ 11 บริษัท Advace new Technology เป็นบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ในลำดับที่ 43 และยังมีแบรนด์มือถือจากจีนที่ติดอันดับคือ OPPO อยู่ในลำดับที่ 49 จากการจัดลำดับดังกล่าว ซื้อของจีนให้ความสำคัญกับการจัดลำดับนี้เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าบริษัทเอกชนของจีนได้ก้าวเข้าไปสู่การแข่งขันในระดับโลกแล้ว ปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ทำให้บริษัทเอกชนของจีนผงาดขึ้นในเวทีโลก จนได้เป็นเจ้าของสิทธิบัตรจำนวนมากมีหลายปัจจัย เริ่มจากการมองไปที่อดีต จีนได้เข้ามา ในองค์การการค้าโลกประมาณ 20 ปี จีนได้เรียนรู้จากสมาชิกต่างชาติในเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ จีนก็ได้เรียนรู้อะไรคือสิ่งที่ดีอะไรคือสิ่งที่ควรพัฒนาและสานต่อ ในเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาทางรัฐบาลจีนก็ได้มองว่าเป็นเรื่องที่ดีควรพัฒนาและสานต่อ ยังมีเรื่องของ สิทธิบัตร,เครื่องหมายทางการค้า,ความลับทางการค้า และอื่นๆอีกมากมายที่แตกย่อยออกมา รัฐบาลจีนจึงได้ สนับสนุนส่งเสริมและผลักดัน ให้บริษัทต่างๆในจีน สร้างสิ่งต่างๆเหล่านี้เราจึงเห็นหลายบริษัทของจีนก้าวขึ้นมาติดอันดับ ในเวทีโลกอย่างต่อเนื่อง หากเข้าไปในบริษัทใหญ่ๆของจีนเราจะพบว่า สิ่งหนึ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจ และอยากจะโชว์ให้ผู้ที่เข้าไปได้รู้คือ สิทธิบัตรที่พวกเขาเป็นเจ้าของ ข้อดีภาคเอกชนในจีนคือพวกเขาพร้อมที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาล เรื่องเครื่องหมายการค้าหรือสิทธิบัตรก็เช่นเดียวกัน ในทุกวันนี้เราเห็นบริษัทของจีนจำนวนมากจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และเอาตรงนี้เป็นพื้นฐานในการต่อยอด การสร้างแบรนด์จนถึงการจดสิทธิบัตร และไม่เพียงแต่ตลาดภายในประเทศยังไปถึงตลาดระหว่างประเทศ เรื่องเหล่านี้เราจะเห็นบทบาทของรัฐบาลจีน ที่สำคัญ ในการเชื่อมโยงกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกในการจัดตั้ง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาโลก มีการแยกและพัฒนา ผู้พิพากษาและนักกฎหมายที่เกี่ยวกับคดีทรัพย์สินทางปัญญาโดยเฉพาะ เพื่อแก้ปัญหาสินค้าเลียนแบบที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ในอดีตรัฐบาลจีนเล็งเห็นแล้วว่า หากไม่คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้ ผู้ประกอบการต่างชาติ อนาคตต่างชาติก็จะไม่คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผู้ประกอบการจีน เนื่องจากในอดีตจีนขึ้นชื่อในเรื่องสินค้าเลียนแบบ หากมองลงไปในรายละเอียดจะพบว่าสินค้าเลียนแบบเป็นสินค้าที่ส่วนต่างกำไรต่ำ ค่าเช่าที่ ที่ใช้ประกอบกิจการราคาสูงขึ้น ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลจีน ที่ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์การค้าของจีน รัฐบาลจีนจึงผลักดันให้ผู้ค้าสินค้าเลียนแบบย้ายออกไปอยู่นอกเมือง ผู้ค้าสินค้าเลียนแบบจึงย้ายไปอยู่นอกเมืองเมื่ออยู่นอกเมืองการเดินทางถึงลำบากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกใช้สินค้าที่เป็นแบรนด์ของจีนเองมากขึ้นเนื่องจากสินค้าของจีนในปัจจุบันนี้มีคุณภาพมีการรับประกัน และราคาถูกใกล้เคียงกับของเลียนแบบแบรนด์ต่างชาติ และสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาถูกปราบปรามจากรัฐบาลจีนอย่างเข้มงวด และมีอัตราโทษที่รุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าเลียนแบบมาเป็นการสร้างแบรนด์และพัฒนาสินค้าของตัวเอง สินค้าเลียนแบบในจีนจึงค่อยๆเลือนหายไป
ปัจจุบันจำนวนบริษัทเอกชนต่างๆของจีนได้เข้าไปอยู่ในการจัดลำดับของหน่วยงานภาคเอกชนและภาคธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น ในภาพรวมทางสถิติ จีนแซงหน้าสหรัฐมาแล้ว 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 จากนโยบายการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดของจีน ทำให้จีนยังรักษาเรื่องของห่วงโซ่อุปทาน การผลิตการดำเนินธุรกิจได้อย่างดี ทำให้บริษัทต่างๆของจีนวิ่งแซงบริษัทต่างชาติ หากเทียบในเชิงปริมาณ บริษัทของจีนมีสถิติแซงหน้าบริษัทของสหรัฐมาแล้ว 2 ปี และมีแนวโน้มทิ้งห่างมากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทของจีนมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอย่างมีเสถียรภาพเนื่องจากบริษัทใหญ่ในจีน มีผลประกอบการที่ดี มีกำไรที่ดีก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของจีน
หากเปรียบเทียบกับชาติชั้นนำอย่างเช่นเยอรมนีและฝรั่งเศสในโซนยุโรปหรือญี่ปุ่นในโซนเอเชียซึ่งมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนานวัตกรรมต่ำกว่าจีนในช่วงหลัง จะพบว่า ในส่วนของบริษัทเทคโนโลยี พลังงานและก่อสร้างของจีน มีความสามารถในการแข่งขันเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลจีน ที่เอื้อต่อภาคเอกชนการซื้อตัวบุคลากรที่มีความสามารถขั้นสูงจากต่างชาติโดยการที่ให้ผลตอบแทนที่สูงและสร้างสภาพแวดล้อม ให้สะดวกสบายเหมาะกับการย้ายถิ่นฐานมาทำงานในจีนอย่างเช่นการได้รับการบริการทางการแพทย์ ที่อยู่อาศัยรวมไปถึงการศึกษาในสถาบันชั้นนำให้กับครอบครัวของบุคลากรต่างๆเหล่านั้น ทำให้จีนมีศักยภาพในการผลิตสินค้าทางเทคโนโลยี และยังก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมพลังงานสีเขียวทำให้บริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับพลังงานสีเขียวหรือพลังงานสะอาดของจีนได้รับการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกก่อให้เกิดการ พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เมื่อภาคเทคโนโลยีและพลังงานมีประสิทธิภาพจึงส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรมขนส่งเจริญเติบโตได้ดีตามไปด้วย จากสถานการณ์การแพทยระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 จากนโยบายการควบคุมการป้องกันและการรักษาของรัฐบาลจีนยังส่งเสริมให้เกิดความเจริญเติบโตในภาคเวชกรรมของจีน
โดยภาพรวมเศรษฐกิจจีนมีการเจริญเติบโตมาก หนึ่งในปัจจัยหลักคือภาคเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้นำที่ทำให้เศรษฐกิจจีนเจริญเติบโต ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆประกอบไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งต้องใช้สารกึ่งตัวนำ (semi conductor) ในการทำงานของระบบ ในอดีตจีนเคยพึ่งพาการนำเข้าสารครึ่งตัวนำจากสหรัฐและพันธมิตรเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งรัฐบาลสหรัฐและพันธมิตรประกาศ Tech war กับรัฐบาลจีน โดยรัฐบาลสหรัฐและพันธมิตรบอยคอร์ด รถการส่งออกสารกึ่งตัวนำให้จีน ทำให้จีนเกิดปัญหาการขาดแคลนสารกึ่งตัวนำที่จะนำไปใช้ผลิตสิ่งของต่างๆ ซึ่งรัฐบาลจีนได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้จึงได้ มีนโยบายที่เอื้อต่อการจ้างงานของบุคลากรที่มีคุณภาพขั้นสูงทำให้ปัจจุบันจีนมีความสามารถในการผลิตสารกึ่งตัวนำในระดับ 3 นาโนเมตร(3nm) ที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับสูง ซึ่งเทียบได้กับการผลิตของชาติฝั่งตะวันตก และยังได้รับการสนับสนุนเม็ดเงินจากรัฐบาลจีนในงานวิจัยต่างๆทำให้ปัจจุบันในภาคการผลิตและเทคโนโลยีของจีนมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ จนนำไปสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลก
ติดต่อนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทย
บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด
เวลาทำงาน จันทร์- เสาร์ 8.00-17.00น. หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ
เบอร์มือถือ 083 090 4009 หรือ 02 101 9701
Facebook: thaihau4u
Line@: @thaihua4u
Email: thaihua4u@gmail.com
Wechat: thaihua4u-1 (ติดต่อคุณต่าย)
QQ: 3243949479 (ติดต่อคุณต่าย)
Tel: 083 090 4009 และ 02 101 9701 (ออฟฟิตไทย)
Tel: +86 18019528780 (Miss Wang ออฟฟิตจีน)
Tel: +86 18257834681 ( Mr.Lu โกดังจีน)