สงครามยูเครนมีผลอย่างไรกับเศรษฐกิจไทย?

ในขณะที่โลกตะวันตกทั้งยุโรปและอเมริกาเดินหน้าคว่ำบาตรรัสเซียในทุกมิติ กองทัพรัสเซียยังคงรุกต่อเนื่องเข้าไปในยูเครนเช่นกัน ซึ่งในตอนนี้สามารถยึดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปห่างจากกรุงเคียฟเมืองหลวงของยูเครนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 550 กิโลเมตร ได้สำเร็จ

 
หลังจากที่มีข่าวระทึกขวัญชาวโลกว่ามีเปลวไฟใกล้ใกล้กับโรงงานไฟฟ้าอย่างนี้ระหว่างการประทะกันของทั้งสองฝ่าย ต่างประเทศรายงานว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้ป้อนไฟฟ้าให้ยูเครนราว 25% และด้วยขนาดหากพลาดพลั้งเกิดการระเบิดขึ้นมาจะรุนแรงมากกว่าการระเบิดของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลถึง 10 เท่า ข่าวที่ออกมาในช่วงแรกทำเอาตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระนาว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ติดลบ 24.35 จุด นักลงทุนต่างชาติขายสิทธิมากสุด 3,665.1 ล้านบาท ซึ่งสวนทางกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นทำซีดีใหม่ส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันในบ้านเราขึ้นราคาขายปลีกหน้าปั๊มอย่างต่อเนื่อง และความรุนแรงของปฏิบัติการทางทหารที่เพิ่มขึ้นหลาย. ในยูเครนเกิดขึ้นไล่หลังปฎิบัติการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของ ยุโรปและอเมริกาที่มีต่อรัสเซียด้วยความเข้มข้นในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยเป้าหมายคือการกีดกันรัสยาออกจากระบบทุนโลกเพื่อตอบโต้การยกทัพบุกยูเครนตามคำสั่งการของ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียที่สื่อตะวันตกวาดภาพว่าเลวร้ายยิ่งกว่าชญากร มาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกเรียกว่า ”นิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจ” ที่เริ่มขึ้นละกองทัพรัสเซียบุกยูเครนได้สองวันโดยมุ่งเป้าไปที่การแช่แข็งทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียที่มีมากกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมไปถึงทรัพย์สินส่วนตัวของท่านผู้นำรัสเซียและบรรดาสหายคนสนิททั้งหลายซึ่งมีอยู่จำนวนมากในต่างประเทศ และตามด้วยการบล็อคไม่ให้ธนาคารรัสเซียเข้าถึงระบบการเงินโลก ด้วยการตัดธนาคารหลักๆของรัสเซียออกจากระบบสื่อสารทางการเงิน หรือสวิฟท์(SWIFT) ซึ่งมีข่าวรายงานว่ามีการเคลื่อนย้ายผ่านระบบหลายล่านๆ ดอลล่าร์ต่อวัน ไปมาระหว่างธนาคารและสถาบันการเงินมากกว่า 11,000 แห่งทั่วโลก การปิดกั้นแบงค์รัสเซียออกจากระบบนี้จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของรัสเซียและยังรวมไปถึงเศรษฐกิจในภาพรวมอีกด้วย หลังจากพี่โลกตะวันตกปล่อยนิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาค่าเงินรูเบิ้ลของรัสเซียอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ทำให้พลเมืองรัสเซียพากันไปต่อแถวยาวเหยียดถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มของทางธนาคารกลางรถเสียรับมือด้วยการประกาศขึ้นดอกเบี้ยเป็นนโยบายแบบรวดเดียวจาก 9.5% เป็น 20% ในประเด็นนี้ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าและอดีตรัฐมนตรีการคลังออกมาให้ความเห็นว่า “ไม่เคยเห็นประเทศในระดับนี้ทำมาก่อน” ขณะเดียวกันทางรัสเซียพยายามสมุนเงินตราต่างประเทศไว้ในประเทศให้มากที่สุดด้วยการประกาศห้ามพลเมืองของตนนำเงินตราต่างประเทศออกนอกเกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 352,000 บาท นอกจากนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐพาเรทกันประกาศต่อต้านสงครามร่วมคว่ำบาตรรัสเซียผ่านช่องทางธุรกิจของตน ตามนโยบายของประธานาธิบดี โจ ไบเดน อาทิเช่นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ เอ็กซ์ซอนโมบิลประกาศจะถอนการลงทุนจากรัสเซีย หรือโบอิ้งระงับโครงการสนับสนุนรัสเซีย บริษัทวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดตัดธนาคารรัสเซียออกจากระบบของบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบกับชาวรัสเซียที่ใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน ตัวอย่างที่ใกล้ตัวตอนนี้ก็คือหากนักท่องเที่ยวรัสเซียมาเที่ยวในประเทศไทยจะไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้แล้ว เช่นเดียวกันกับบริษัทขนาดใหญ่ด้านบริการสื่อสังคม ออนไลน์ อย่าง Googleประกาศปิดกั้นช่อง YouTube ไม่ให้สื่อของรัฐบาลมอสโกที่ถูกระบุว่ารายงานข่าวสงครามยูเครนบิดเบือนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอาร์ที(รัสเซียทูเดย์) และสปุตนิคนิวส์ เช่นเดียวกับเมตตา (Facebook) ไมโครซอฟท์ ที่ประกาศปิดกั้นสื่อ ซึ่งมาตรการการปิดกั้นสื่อและเสียผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อฝั่งตะวันตกด้วยกันว่า ยิ่งปิดกั้นผู้คนยิ่งอยากรู้ เช่นเดียวกับ Apple Payที่ตัดแบงค์รัสเซียออกจากระบบ ชาวรัสเซียที่เคยชำระค่าสินค้าผ่านมือถือไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป ฯลฯ ในทางกลับกันนั้นรัสเซียมีการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเช่นกัน เช่น กรณีสำนักงานโอกาสรัสเซียประกาศงดขายเครื่องยนต์จรวดให้สหรัฐ และงดให้บริการหลังการขายเครื่องยนต์ที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ด้วยและล่าสุดสภาดูมา ผ่านการเห็นชอบกฎหมายเกี่ยวกับการเผยแพร่ข่าวเท็จโดยเฉพาะข่าวสงครามและกาดคว่ำบาตรรัสเซีย มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี โดยรัสเซียอ้างว่าสหรัฐและพันธมิตรเผยแพร่ข่าวเท็จที่ทำให้ชาวรัสเซียเกิดความแตกแยก ทำเอาสำนักข่าวใหญ่อย่าง CNN บลูมเบิร์ค ซีบีเอสนิวส์ ฯลฯ ประกาศให้นักข่าวรัสเซียงดเขียนข่าวเพราะ เป็นห่วงสวัสดิภาพนักข่าว =เวลานี้พื้นที่ข่าวสารจากสงครามยูเครนถูกปิดกั้นจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งเอื้อให้เฟกนิวส์ และข่าวลือทำงานได้อย่างเต็มที่

 

หากมองภาพรวมในเวลานี้สงครามยูเครนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะคาดเดาความรุนแรงและจะพัฒนาไปอยู่ในระดับใด แต่ที่แน่ๆคือทิศทางห่างไกลจากมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่มีประเทศสมาชิก 141 ประเทศรวมประเทศไทย (จาก 181 ประเทศ) ลงมติประณามการบุกยูเครนของรัสเซียและ ให้ถอนกำลังจากยูเครนทั้งหมดทันที

 
ในทางการเมืองระหว่างประเทศ ไทยนั้นได้ร่วมลงมติประณามรัสเซียไปแล้ว ในส่วนของภาคเศรษฐกิจ งั้นมุมมองจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจต่างๆ มองว่าผลกระทบโดยตรงที่มีต่อเศรษฐกิจไทยนั้นมีไม่มาก เพราะตัวเลขการค้าขายระหว่างประเทศไทยกับสองประเทศคู่กรณีมีรวมกันเพียง 1% ของมูลค่าการค้ารวม แต่ผลทางอ้อมน่ะคกลัวกว่าเพราะราคาน้ำมันดิบจากหลายแหล่งถ้ารุ้ขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลไปแล้ว ซึ่งส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในบ้านเราปรับขึ้น อย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและเพิ่มอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นในที่สุด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ออกมาแถลงถึงตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เปรียบเทียบเดือนเดียวกันกับปีก่อนหน้าซึ่งเพิ่มสูงขึ้นถึง 5.28% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปีเว้นวรรคโดยมีสาเหตุหลักจากสินค้าพลังงานปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น และแน่นอนว่าสภาวะที่สินค้าราคาแพงแต่รายได้เท่าเดิมทำให้ชีวิตความเป็นอยู่มีความยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม และหากสงครามยูเครนยืดเยื้อคงไม่ใช่แค่ขวัญเท่านั้นที่ลอยมาถึงประเทศไทยแต่เปลวไฟจากรามตามมาด้วย

ติดต่อนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทย
บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด
เวลาทำงาน จันทร์- เสาร์ 8.00-17.00น. หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ
เบอร์มือถือ 083 090 4009 หรือ 02 101 9701
Facebook: thaihau4u
Line@: @thaihua4u
Email: thaihua4u@gmail.com 
Wechat: thaihua4u-1 (ติดต่อคุณต่าย)
QQ: 3243949479 (ติดต่อคุณต่าย)
Tel: 083 090 4009 และ 02 101 9701 (ออฟฟิตไทย)
Tel: +86 18019528780 (Miss Wang ออฟฟิตจีน)
Tel: +86 18257834681 (  Mr.Lu โกดังจีน)