Last updated: 7 เม.ย 2565 | 793 จำนวนผู้เข้าชม |
ข้อควรรู้ ก่อนผันตัวเป็นแม่ค้าสาย “นำเข้าจากจีน”
สำหรับใครที่กำลังสนใจมองหาสินค้านำเข้าจากประเทศจีนเพื่อมาขายในไทย หรือ สำหรับมือใหม่ที่หาธุรกิจทำ การนำเข้าสินค้าจากจีน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง จากที่เมื่อก่อนมักมองหาสินค้าจากตลาดค้าส่งในเมืองไทย ซึ่งบางทีตลาดค้าส่งเหล่านี้นำสินค้าหลายอย่างเข้ามาจากประเทศจีนอีกทีแต่ด้วย เทคโนโลยีการสื่อสาร และคลังความรู้ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ในปัจจุบันทำให้การนำเข้าสินค้าด้วยตนเองจากแหล่งผลิตไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากลำบากอีกต่อไป บทความนี้เป็นการแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าจากจีน ก่อนที่เราจะนำเข้าสินค้าจากจีนเราควรรู้อะไรบ้างไปดูกัน
รู้ว่าจะขายอะไร
สำหรับคนที่เคยค้าขายมาก่อนแล้วก็คงมีสินค้าที่อยากขาย แต่อาจจะเป็นสินค้าที่ซื้อจากคนกลาง หรือโรงงานในไทย ก็คงเลือกสินค้าที่จะนำมาขายได้มายากแต่สำหรับนักขายมือใหม่ที่อยากจะมาลงทุนค้าขาย กันแบบเริ่มต้น คงเป็นโจทย์ที่คิดไม่ค่อยตก ไม่รู้จะขายอะไรดี เลือกจะขายอะไรก็ไม่แน่ใจว่าจะขายดีหรือเปล่า ขายแล้วจะขาดทุนไหม เงินจะจมหรือเปล่า ปัญหามากมายมักผุดขึ้นมาเต็มหัวไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องปกติขึ้นชื่อว่าการลงทุนทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยงทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถปรับตัวและแข่งขันอยู่ในตลาดให้โดดเด่นกว่าคนอื่นยังไง สำหรับนักขายมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดีอยากให้เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบหรือสนใจก่อนเป็นอันดับแรก เหตุผลที่แนะนำแบบนี้เพราะการขายอะไรที่ตัวเองชอบจะกระตุ้นทำให้ตัวเองรู้สึกสนุกที่จะทำและไม่เบื่อหน่ายกับการขายง่ายง่าย ช่วงแรกของการลงทุนส่วนใหญ่มักต้องใช้เวลา การวางแผนและการลงแรงไปมากพอสมควร หากเลือกขายสิ่งที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกชอบหรือสนใจพอเริ่มต้นขายไปแล้วผลตอบรับไม่ได้เป็นแบบที่คาดหวังก็มักจะเลิกล้มขายกันไปแบบง่ายง่ายซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
รู้ว่าต้องซื้อจากที่ไหน
แน่นอนว่าบทความนี้หัวข้อคือการนำเข้าสินค้าจากจีน ความจริงแล้วจีนเป็นประเทศที่กว้างมาก ฐานการผลิตสินค้าแต่ละประเภทก็อาจอยู่ต่างพื้นที่กันออกไป แต่เมืองหลักๆ ที่คนไทยนิยมเดินทางไปหาซื้อสินค้ากันคือ กวางโจว เซินเจิ้น และอี้อู หากเอ่ยชื่อ 3 เมืองนี้แม่ค้าสายนำเข้าจากจีนคงร้องอ๋อ เพราะทั้งสามเมืองนี้เป็นฐานการผลิตมีโรงงานจำนวนมากขึ้นอยู่กับว่าสินค้าที่คุณต้องการอยู่ที่เมืองไหนและราคาต่ำกว่ากัน เช่น อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์แก๊ตเจ็ดสำหรับมือถือ ก็ต้องนึกถึงเมืองเซินเจิ้นเพราะขึ้นชื่อในเรื่องราคา ความเชี่ยวชาญในการผลิตและคุณภาพ หากใครต้องการสินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ายกโหล เสื้อผ้าแฟชั่น รวมไปถึง งานสั่งตัดไฮเอนด์ ก็ต้องนึกถึงเมืองกวางโจว ส่วนถ้าใครกำลังมองหาสินค้าเบ็ดเตล็ดหรือสินค้าราคา 20 บาท สั่งซื้อจำนวนมากแบบยกตู้ มาเปิดร้านขายส่งหรือร้านขนาดใหญ่ อ้อต้องนึกถึงเมืองอี้อู หากยังไม่ทราบว่าสิ่งที่คุณต้องการขายนั้นอยู่ที่เมืองไหน แนะนำ ให้ศึกษาหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตหรือลองดูหนังสือชื่อ “ ลุยตลาดค้าส่งกวางโจว อี้อู เซินเจิ้น” ที่จะช่วยแนะนำตลาดขายสินค้าตามประเภทสินค้าตามโจทย์ของท่านได้
รู้ว่าต้องขนสินค้ากลับยังไง
หากท่านใดที่เคยเดินทางไปต่างประเทศจะทราบดีว่าเราสามารถโหลดของมาทางใต้ท้องเครื่องได้ แต่ก็จะมีเกณฑ์น้ำหนักจำกัดอยู่หากเกินเกณฑ์น้ำหนักจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วนค่าใช้จ่ายจะเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับสายการบินที่ท่านเดินทาง และต้องเตรียมเอกสารเพื่อแสดงต่อศุลกากรว่าสิ่งที่ท่านขนมา คืออะไร ในบางชนิดสินค้าท่านอาจจะต้องเสียภาษีเพิ่มเติม แต่สำหรับแม่ค้ามืออาชีพที่ต้องการขนสินค้ากลับมาขายยังไทย จะใช้การ ขนส่งสินค้าโดยบริษัทขนส่งเอกชนหรือชิปปิ้ง เป็นตัวกลางในการขนส่งสินค้าของคุณกลับมายังเมืองไทย ซึ่งมีค่าขนส่งค่าบริการชัดเจนสามารถ คำนวณและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ บริษัทชิปปิ้ง พวกนี้จะดำเนินการเรื่องภาษีนำเข้าและ รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายชัดเจน โดยที่ท่านไม่ต้องดำเนินการใดๆ ส่วนใหญ่บริษัทชิปปิ้งเก็บค่าบริการ คิดจากน้ำหนักของสินค้า ภาษาทางการเรียกว่า ค่าระวางสินค้า ซึ่งภาษาแม่ค้าจะเรียกกันว่า “ค่ากิโล” โดยค่ากิโลจะถูกแยกราคาออกไปตามวิธีการขนส่ง 3 วิธีหลักๆ คือ
1.ขนส่งโดยเรือ ค่ากิโลจากการขนส่งโดยเรือจะมีราคาถูกที่สุดแต่ช้าที่สุดการเดินทางของเรือจากเมืองกวางโจวมายังประเทศไทยใช้เวลาประมาณ 12 ถึง 15 วัน
2. ขนส่งโดยรถ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากใช้เวลาไม่นาน ค่ากิโลราคาปานกลาง ใช้เวลาเดินทางมายังประเทศไทยประมาณ 5 ถึง 7 วัน
3. ขนส่งโดยเครื่องบิน เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมน้อย เนื่องจากมีค่ากิโลที่แพงที่สุดเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการความรวดเร็วและความปลอดภัยในการขนส่งระดับสูง ใช้เวลาเดินทางมายังประเทศไทยประมาณ 1 ถึง 2 วัน
ส่วนการเลือกชิปปิ้งว่าจะใช้ผู้ให้บริการรายไหนนั้น ให้ปรึกษาจากเพื่อนหรือคนรู้จักว่าเคยใช้บริการจากรายไหน แต่หากไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักใช้บริการชิปปิ้ง ให้ลองศึกษาหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ลองคำนวณค่าใช้จ่ายของชิปปิ้งแต่ละที่ และความน่าเชื่อถือจากรีวิว ชิปปิ้งแต่ละที่จะมีจุดเด่นในการบริการที่แตกต่างออกไป ก็ให้ดูว่าสินค้าที่เรานำเข้ามาตรงกับความถนัดของผู้ให้บริการนั้นหรือไม่ ประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการ
รู้ภาษาจีน
- [ ] เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคในการ เลือกซื้อสินค้า การสื่อสารเป็นส่วนสำคัญหาก ท่านไม่สามารถพูดหรืออ่านภาษาจีนได้ ก็ให้เลือกผู้ให้บริการชิปปิ้ง ที่มีบริการเป็นคนกลางติดต่อกับผู้ขายให้ท่านได้ หากท่านมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ร้านค้าบางร้านในจีนก็สามารถสื่อสารกับท่านเป็นภาษาอังกฤษได้ อีกทั้งในปัจจุบันเทคโนโลยีการแปลภาษาในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ ในการสื่อสาร หากท่านเดินทางไปซื้อสินค้าที่ประเทศจีนด้วยตนเอง สามารถติดต่อจ้างไกด์ซึ่งจะสามารถเป็นล่ามแปลภาษาให้ท่านได้ โดยค่าจ้างจะเริ่มต้นที่ประมาณ 300 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1500 บาทต่อวัน หากท่านใช้บริการชิปปิ้งขนสินค้ากลับไทยเป็นจำนวนมากๆบางชิปปิ้งจะมีบริการไกด์ฟรีให้ด้วย
รู้ว่าต้องไปยังไงพักที่ไหน
การเดินทางไปเมืองหลักทั้ง 3 เมืองที่กล่าวมาแล้วนั้น จะมีสายการบินราคาประหยัดที่ช่วยลดต้นทุนหลากหลายสายการบิน โดยราคาช่วงโปรโมชั่นหรือหากจองล่วงหน้าบางทีราคา 2พันกว่าบาท ก็มีให้เห็น ส่วนใครที่ต้องการจะไปยังเมืองอี้อู นั้นจะไม่มีสายการบินที่บินตรงไปยังเมืองแต่จะต้องต่อเที่ยวบินในประเทศอีกที หรือจะบินไปลงเมืองอื่นๆข้างเคียงแล้วนั่งรถไฟความเร็วสูงไปก็ได้ ในส่วนของเรื่องที่พักที่ประเทศจีนนั้นราคาถูก มีเยอะมาก ห้องกว้าง สะอาด ความสะดวกครบครันซึ่งสามารถค้นหาและทำการจองล่วงหน้าผ่านแพลตฟอร์มยา Agoda, Booking, Trip และเอเจนซี่อื่นๆได้อย่างสะดวก
รู้ว่าจะขายที่ไหน
เมื่อเราหาของจากแหล่งที่คิดว่าถูกที่สุดซึ่งสามารถทำราคาได้ไม่สูงมากเพื่อดึงดูดผู้ซื้อได้แล้วนั้น ปัจจัยหลักที่สำคัญคือช่องทางการขาย ในปัจจุบันการค้าขายมีการแข่งขันสูงมากไม่ว่าจะขายแบบมีหน้าร้านหรือขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์หากเราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายช่องทางมากเท่าไหร่โอกาสในการขายก็ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย กลยุทธ์การขายก็มีส่วนสำคัญต้องเหมาะสมกับสินค้านั้นๆ ทำให้สินค้าดูโดดเด่นและน่าซื้อด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งที่ควรรู้ขั้นพื้นฐานเป็นการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมในการ ผันตัวเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่นำเข้าสินค้าจากจีนมาขายขอให้ผู้ที่เริ่มต้นหรือมือใหม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ
อ้างอิงจาก : dplusguide
ติดต่อนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทย
บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด
เวลาทำงาน จันทร์- เสาร์ 8.00-17.00น. หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ
เบอร์มือถือ 083 090 4009 หรือ 02 101 9701
Facebook: thaihau4u
Line@: @thaihua4u
Email: thaihua4u@gmail.com
Wechat: thaihua4u-1 (ติดต่อคุณต่าย)
QQ: 3243949479 (ติดต่อคุณต่าย)
Tel: 083 090 4009 และ 02 101 9701 (ออฟฟิตไทย)
Tel: +86 18019528780 (Miss Wang ออฟฟิตจีน)
Tel: +86 18257834681 ( Mr.Lu โกดังจีน)