Last updated: 11 เม.ย 2565 | 1099 จำนวนผู้เข้าชม |
การเติบโตของเศรษฐกิจจีนอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเกิดจากการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ของแต่ละเมืองโดยที่คนมักนิยมเปรียบเทียบกันระหว่าง ปักกิ่ง เมืองหลวงทางการเมือง และ เซี่ยงไฮ้ เมืองหลวงทางเศรษฐกิจ โดยทั้งสองเมืองได้ผ่านการเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ระดับโลก ในปี 2008 ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน และยังเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา(2022) ในขณะที่เซี่ยงไฮ้ก็จัดงานที่ทรรศการโลก(World Expo) ในปี 2008 และเป็นเจ้าภาพจัดงาน Chaina International Import Expo (CIIE) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านำเข้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จากการรายงานของรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ เป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของมหานครแห่งนี้ อยู่ที่ 5.5% ของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจจีน การกำหนดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเซี่ยงไฮ้มักจะอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกับเป้าหมายการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนในภาพรวมเพราะเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของจีน โดยทางรัฐบาลเซี่ยงไฮ้กำหนดเป้าหมายระยะสั้นคือ การเสริมสร้าง เสถียรภาพ ใน 6 ส่วนหน้า ที่เป็นพื้นฐานหลักของเศรษฐกิจเซี่ยงไฮ้ ได้แก่ การจ้างงาน ภาคการเงิน การค้าระหว่างประเทศ การลงทุนระหว่างประเทศ การลงทุนภายในประเทศ และความคาดหวัง และ รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ยังให้ความสำคัญกับ ความมั่นคง 6 ด้าน ได้แก่ ความมั่นคงในตำแหน่งงานความต้องการในความเป็นอยู่พื้นฐานการประกอบธุรกิจความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานที่มีเสถียรภาพ และบริการขั้นปฐมของรัฐบาล
ในความพยายามที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการเงินระหว่างประเทศรัฐบาลเซี่ยงไฮ้มีนโยบายที่รองรับการลงทุนในกิจการด้านการเงินการธนาคารประกันภัย การค้าและโรงแรม โดยเฉพาะในเขต ลู่เจียจุ่ย ใจกลางนครเซี่ยงไฮ้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเซี่ยงไฮ้ก็ยังดำเนินนโยบายพิเศษด้านภาษี การเงิน และระบบนิเวศโดยรวมเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความสามารถแข่งขันทางธุรกิจและดึงดูดผู้กอบการจากต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้ามาลงทุนได้ และยังมีนโยบายเขตเสรีทางการค้า ซึ่งส่งผลให้เซี่ยงไฮ้สามารถดึงดูดนวัตกรรมทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เซี่ยงไฮ้จึงเป็นทางเลือกแรกของธุรกิจบริการ และการจัดตั้งสำนักงานใหญ่หรือภูมิภาค รวมทั้งศูนย์ วิจัยและพัฒนาของกิจการข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนในจีนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ในด้านการเป็นศูนย์กลางการค้าปลีก เซี่ยงไฮ้ได้นำประสบการณ์การค้าปลีก มาปรับให้เข้ากับการจับจ่ายใช้สอยยุคใหม่ ทั้งนี้เซี่ยงไฮ้ได้วางแผนกระตุ้นตลาดค้าปลีก ด้วยการพัฒนารูปแบบการค้าและบริโภคให้มีความหลากหลาย ด้วยการจัดพื้นที่แสดงสินค้าแบรนด์ท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการปรับโฉมแบรนด์เก่าแก่ของเซี่ยงไฮ้ ด้วยองค์ประกอบทางด้านศิลปะและแฟชั่นสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความน่าดึงดูด ด้วยจำนวนประชากรที่มีรายได้สูงประมาณ 30 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจำนวนหลายสิบล้านคน ทำให้เซี่ยงไฮ้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มเปี่ยมในการเป็นศูนย์กลางการค้าปลีก และยังมีการจัดประกวดแข่งขันนักออกแบบก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อดึงดูดกระแสความสนใจด้านแฟชั่นในวงกว้าง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามานโยบายหลักส่วนหนึ่งของการดำเนินการพัฒนาชุมชนเมืองของจีนอยู่บนพื้นฐานของ “เศรษฐกิจ 1 ชั่วโมง” หากย้อนกลับไปในอดีต 15 ถึง 20 ปีก่อน ในรัศมี 1 ชั่วโมงการเดินทางค่อนข้างจำกัด หากเดินทางในเวลา 1 ชั่วโมงยังไม่สามารถออกพ้นเขตเมืองเซี่ยงไฮ้เลยด้วยซ้ำ เพราะความไม่เพียงพอของถนนหนทางในยุคนั้นทำให้การพัฒนาเมืองมีลักษณะกระจุกตัวและนำไปสู่ปัญหาอื่นเช่นความแออัดของการจราจร มลพิษทางอากาศ รวมทั้งต้นทุนและค่าของชีพสูง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวการขยายการพัฒนาของจีนภายใต้การนำของ สี จิ้นผิง จึงเริ่มปรับบริบทการพัฒนาให้ไปอยู่บนหลักการพัฒนาแบบ “กลุ่มเมือง” ซึ่งภายหลังการดำเนินนโยบายนี้มาเกือบ 10 ปีจีนก็สามารถพัฒนาจนมีกว่า 20 กลุ่มเมืองกระจายทั่วจีนในปัจจุบัน โดยเซี่ยงไฮ้เปรียบเสมือน “หัวมังกร” ที่เชื่อมต่อกับอีก 26 เมือง ในมณฑลเจียงซู เจ้อเจียง และอันฮุย ทำให้เกิดเป็นกลุ่มการผลิตและตลาดในพื้นที่ปากแม่น้ำแย่งซีเกียง ที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
การมุ่งหวัง” การเติบโตทางเศรษฐกิจ” ในภาพใหญ่ของจีนในยุคใหม่นั้นใส่ใจการเพิ่มขึ้นของ “ ความสุขภาคประชาชน” มากขึ้น โดยไม่มองข้ามการสร้างเสน่ห์ในแต่ละส่วนของเมือง เพราะ”เมืองที่ไร้คนคือเมืองที่ขาดจิตวิญญาณ” ทางการจีนจึงอยากให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากกว่าการสั่งซื้อสินค้าอยู่ที่บ้าน โดยสร้างโครงการที่น่าสนใจขึ้นมาเช่น ชุมชน 15 นาทีเดิน เมืองแนวดิ่งและอาคารสีเขียว และพัฒนาจัดระเบียบโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่กระจุกตัวอยู่ในรัศมี 15 นาทีเดิน ครอบคลุมตั้งแต่สถาบันการศึกษา บริการสาธารณสุข และพื้นที่สีเขียว รวมทั้งเวิ้งร้านอาหาร ร้านค้าปลีก และสตาร์ทอัพ
เซี่ยงไฮ้นับว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาบันการศึกษาชั้นนำในทุกระดับการศึกษา ทั้งของจีนและต่างชาติ จึงเป็นแหล่งผลิตบุคลากรคุณภาพสูงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน รัฐบาลและเอกชนของเซี่ยงไฮ้ยังร่วมมือกันเปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่าให้เป็นพื้นที่สีเขียว เช่น สวนหย่อมและสวนสาธารณะ เซี่ยงไฮ้ยังมี สถานพยาบาลคุณภาพสูงมากมาย แต่ละมหาวิทยาลัยที่มีคณะแพทย์ศาสตร์ ต่างมีเครือข่ายกับโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยแพทย์และพยาบาลชั้นแนวหน้าจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วเซี่ยงไฮ้ โดยหลายแห่งยังเป็นต้นแบบในการใช้นวัตกรรม ด้านการรักษาพยาบาลสมัยใหม่ ในการวินิจฉัยและรักษา รวมถึงการจัดการระบบต่างๆทางการแพทย์ให้มีความแม่นยำและสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้เชียงไฮ้ยังมีกิจการด้านวิจัยและพัฒนา ผลิตเครื่องมือ อุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ชั้นนำของจีน ซึ่งทำให้เสียงให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกสินค้าเหล่านั้นสู่ตลาดต่างประเทศในปัจจุบัน
ในด้านการพัฒนาให้ เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ เสียงหายถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ของจีน เช่น ทางด่วนสายแรก ทางด่วนยกระดับ และอุโมงค์ถนนลอดใต้แม่น้ำแห่งแรกของจีน และยังเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้าทางเรือที่สำคัญของจีน โดยแต่เดิมมีท่าเรือจำนวนมากในบริเวณพื้นที่ปากแม่น้ำแยงซีเกียง และต่อมาก็ได้ทำการก่อสร้างท่าเรืออ ยางซานขึ้นกลางทะเลเมื่อราว 20 ปีก่อน เมื่อพัฒนาถึงระยะที่ 4 ซึ่งเป็นถ้าเทียบเรือโนมัตเต็มรูปแบบ ท่าเรือหยางซาน ได้กลายเป็นท่าเรือสินค้าคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในด้านการบินเซี่ยงไฮ้ข้อพัฒนาสนามบินนาราชาติมาอย่างต่อเนื่องต่อยอดให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ครบวงจรในปัจจุบัน นอกจากนี้เซี่ยงไฮ้ยังวางแผนก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ในอนาคตอันใกล้อีกด้วย ในการพัฒนาบริการรถไฟสาธารณะ เซี่ยงไฮ้มีโครงข่ายรถไฟใต้ดินที่หนาแน่นที่สุดเมืองหนึ่งของโลก โดยมีจำนวน 20 สายรวมระยะทางกว่า 830 กิโลเมตรและมีสถานีเพื่อเปลี่ยนสายถึง 83 จุด และยังอยู่ระหว่างการเร่งก่อสร้างรถไฟใต้ดินที่เร็วที่สุดในโลกที่เชื่อมระหว่างสนามบินผู่ตง - หงเฉียว อีกราวสองปีก็จะเริ่มเปิดให้บริการ เซี่ยงไฮ้ยังโด่งดังจากการเป็นเมืองนำร่องในการก่อสร้างรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้า ที่จีนทุ่มทุนซื้อลายเส้นด้านเทคโนโลยีจาก บริษัทซีเมนส์ (Siemens) ของเยอรมนีเมื่อหลายปีก่อนซึ่งให้บริการด้วยความเร็ว 430 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน และโลจิสติกส์ระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ยังกำหนดวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมของจีน และของโลกในระยะยาวอีกด้วย
อ้างอิงจาก : tnnthailand
ติดต่อนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทย
บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด
เวลาทำงาน จันทร์- เสาร์ 8.00-17.00น. หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ
เบอร์มือถือ 083 090 4009 หรือ 02 101 9701
Facebook: thaihau4u
Line@: @thaihua4u
Email: thaihua4u@gmail.com
Wechat: thaihua4u-1 (ติดต่อคุณต่าย)
QQ: 3243949479 (ติดต่อคุณต่าย)
Tel: 083 090 4009 และ 02 101 9701 (ออฟฟิตไทย)
Tel: +86 18019528780 (Miss Wang ออฟฟิตจีน)
Tel: +86 18257834681 ( Mr.Lu โกดังจีน)